เงื่อนไขในการขอกู้
เงื่อนไขในการขอกู้
เงื่อนไขและข้อปฏิบัติที่ควรทราบในการทำสัญญากู้ยืม |
1.)ต้องไม่ทําสัญญาเกินขอบเขตวงเงินกู้ยืมที่ได้รับ |
2.)ให้ผู้กู้ยืมเงินกรอกสัญญาให้ครบถ้วน โดยเฉพาะเลขบัตรประจําตัวประชาชน ที่อยู่ ระดับการศึกษา และชั้นปีการศึกษา หากเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วนจะมีผลให้การพิจารณาอนุมัติเงินกู้ยืมล่าช้า |
3.)กรณีมีการแก้ไขแห่งใดในสัญญาผู้กู้ยืมต้องลงลายมือชื่อกำกับทุกแห่งและห้ามใช้น้ำยาลบคำผิด(ลิควิดเปเปอร์) และหากกรอกข้อมูลที่ไม่ตรงกับความเป็นจริงจะถือว่าให้ข้อมูลเป็นเท็จ มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา |
4.)เอกสารทุกฉบับต้องลงลายมือชื่อรับรองสำเนาถูกต้องโดยเจ้าของเอกสารเป็นผู้ลงลายมือชื่อด้วยตนเองได้แก่ผู้กู้ยืม บิดามารดา ผู้ปกครอง และผู้ค้ำประกัน ผู้รับรองเงินเดือนหรือรายได้ อาจารย์แนะแนวและอาจารย์ที่ปรึกษา เป็นต้น |
5.)ผู้กู้ยืมที่ศึกษาชั้นปีสุดท้ายของหลักสูตร ให้ระบุ “ชั้นปีสุดท้าย” ที่มุมขวาของสัญญาด้วย |
6.)ผู้กู้ยืม ผู้ค้ำประกัน ผู้แทนโดยชอบธรรม (กรณีผู้กู้ยืมยังไม่บรรลุนิติภาวะ) ต้องลงลายมือชื่อด้วยตนเอง |
7.)ผู้กู้ยืม ผู้ค้ำประกัน ผู้แทนโดยชอบธรรม (กรณีที่มิใช่บิดาหรือมารดา) ให้ใช้ทั้ง สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน และสําเนาทะเบียนบ้าน และต้องรับรองสําเนาด้วยตนเองทุกฉบับ ในกรณีที่ผู้ค้ำประกัน ผู้แทนโดยชอบธรรม เป็นบุคคลเดียวกันให้ใช้สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน และสําเนาทะเบียนบ้านเพียงชุดเดียว |
8.)เอกสารสัญญาจัดทำขึ้น2ฉบับมีข้อความถูกต้องตรงกันโดยผู้กู้ยืมต้องจัดเก็บสัญญากู้ยืมคู่ฉบับไว้กับตนเองจนกว่าจะชำระหนี้ได้เสร็จสิ้นแล้ว |
9.)ผู้กู้ยืมต้องเก็บรักษาสมุดบัญชีเงินฝากและบัตรเอทีเอ็มไว้กับตนเองแม้ว่าในภายหลังจะบอกเลิกสัญญาการกู้ยืมก็ตาม และไม่ควรให้ผู้อื่นทราบรหัสบัตรเอทีเอ็มของตน |
10.)เพื่อสิทธิประโยชน์ในอนาคตของผู้กู้ยืมต้องแจ้งสถานภาพกับธนาคารกรุงไท ได้ทราบในกรณีที่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนตัว (แบบฟอร์ม กยศ. 203) ดังนี้ (1)ชื่อ – นามสกุล (2)ที่อยู่ปัจจุบัน และที่อยู่ตามภูมิลำเนา (3)การย้ายสถานศึกษา (4)การสำเร็จการศึกษา (5)การเลิกการศึกษา |